ไม่ว่าจะเป็นงานเปิดตัวสินค้า งานสัมมนาหรืองานแฟร์สำหรับแบรนด์ การจัดอีเว้นท์ให้ “เวิร์ก” ไม่ใช่แค่เรื่องความสนุก แต่ต้องวางแผนอย่างมีเป้าหมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน ทั้งเรื่องการสร้างภาพจำ ขยายฐานลูกค้า กระตุ้นยอดขายและยังต้องสร้างอิมแพคทางธุรกิจได้อย่างทรงพลัง ดังนั้น ในวันนี้ UOB LIVE จะพามาเปิดคัมภีร์ 10 ขั้นตอนการจัดงานอีเว้นท์ฉบับเข้าใจง่าย ทำตามได้จริง ที่จะเปลี่ยนโปรเจกต์ของคุณให้กลายเป็นความสำเร็จระดับตำนานมาฝากกัน
รู้จักประเภทของอีเว้นท์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ
ก่อนจะเริ่มลงมือจัดอีเว้นท์ สิ่งแรกที่ต้องรู้ คืออีเว้นท์มีหลายรูปแบบมาก และแต่ละแบบก็ตอบโจทย์เป้าหมายที่ต่างกันไป ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้
- งานเปิดตัวสินค้า (Product Launch) เหมาะสำหรับการแนะนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ สร้างกระแส และกระตุ้นความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทั้งสื่อมวลชน ลูกค้า และพาร์ตเนอร์ธุรกิจ งานลักษณะนี้มักมาพร้อมกับกิจกรรมที่สร้างความตื่นเต้น เช่น เดโมสด ไลฟ์เปิดตัว หรือโปรโมชั่นเฉพาะในวันงาน
- งานสัมมนา (Seminar) งานเผยแพร่ความรู้ อัปเดตเทรนด์ หรือถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการสร้าง Thought Leadership หรือยกระดับภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรม งานสัมมนาสามารถจัดได้ทั้งแบบเชิญเฉพาะกลุ่มหรือเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วม
- งานคอนเสิร์ต (Concert) งานที่โฟกัสไปที่การสร้างประสบการณ์ร่วมที่น่าจดจำ กระตุ้นอารมณ์และความผูกพันทางใจระหว่างผู้ร่วมงานกับแบรนด์ เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการจดจำและขยายฐานแฟนคลับ หรือใช้เป็นกิจกรรมเสริมในแคมเปญการตลาดเชิงอารมณ์
- งานประชุมผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Meeting) เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรายงานผลประกอบการ วิสัยทัศน์ และทิศทางในอนาคตขององค์กรต่อผู้ถือหุ้น เน้นการสื่อสารข้อมูลอย่างเป็นทางการ สร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในการบริหารงานของบริษัท
10 ขั้นตอนการจัดอีเว้นท์ให้ปัง!
เมื่อเลือกรูปแบบงานที่ใช่ได้แล้ว ก็มาถึงแกนหลักของเรา มาดูกันเลยว่า 10 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนการจัดอีเว้นท์ ธรรมดาให้กลายเป็นมาสเตอร์พีซมีอะไรบ้าง!

1. กำหนดรูปแบบงาน
สเต็ปแรกที่คมชัดที่สุดคือ “เป้าหมาย” ถามตัวเองให้เคลียร์ว่าอยากได้อะไรจากการจัดอีเว้นท์ในครั้งนี้? ต้องการสร้าง Brand Awareness ให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น? หวังเพิ่มยอดขายแบบทะลุเป้า? หรืออยากสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับลูกค้าเก่า? เป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นเหมือนดาวเหนือ นำทางให้ทุกการตัดสินใจของคุณไม่หลงทิศ
2. วิเคราะห์และทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
การจัดอีเว้นท์ก็เหมือนการจัดปาร์ตี้ เราต้องรู้ว่าแขกของเราเป็นใคร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งจะทำให้เราสามารถออกแบบทุกองค์ประกอบในงาน ตั้งแต่สไตล์การสื่อสาร กิจกรรม ไปจนถึงของว่าง ให้โดนใจพวกเขามากที่สุด จนรู้สึกว่า “งานนี้สร้างมาเพื่อเราชัดๆ!”
3. วางคอนเซ็ปต์และธีมงานให้น่าจดจำ
ธีมงานไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่มันคือ DNA ของอีเว้นท์! คอนเซ็ปต์ที่ดีต้องสะท้อนตัวตนของแบรนด์และสอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ ลองคิดถึง Mood & Tone ที่อยากให้เกิดขึ้นในงาน อยากให้ดูหรูหรา สนุกสนาน หรือสร้างแรงบันดาลใจ? ธีมที่แข็งแรงจะทำให้งานของคุณแตกต่างและเป็นที่น่าจดจำ
4. จัดทำแผนงบประมาณอย่างละเอียด
การวางแผนงบประมาณที่ครอบคลุมคือหัวใจของการจัดอีเว้นท์ที่จะไม่ทำให้คุณปวดหัวทีหลัง ลิสต์ทุกค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตั้งแต่ค่าสถานที่ ค่าการตลาด ค่าทีมงาน ไปจนถึงค่าใช้จ่ายจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ และอย่าลืม! กันงบสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 10 – 15% เพื่อป้องกันปัญหางบบานปลาย
5. เลือกสถานที่จัดงานที่ตอบโจทย์
สถานที่คือพระเอกของงาน! มันคือสิ่งแรกที่ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสและสร้างความประทับใจแรก เพราะฉะนั้น การเลือกสถานที่จึงต้องคิดให้รอบด้าน ทั้งขนาดที่เหมาะสม การเดินทางที่สะดวกสบายและบรรยากาศที่เข้ากับธีมงาน
ถ้าคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ครบเครื่องและยกระดับการจัดอีเว้นท์ของคุณไปอีกขั้น UOB LIVE คือคำตอบ ด้วยโลเคชั่นใจกลางกรุงเทพฯ ที่เข้าถึงง่ายด้วยรถไฟฟ้า BTS พร้อมความจุที่ยืดหยุ่น รองรับได้ทุกสเกลงาน ตั้งแต่อีเว้นท์ขนาดกลางไปจนถึงคอนเสิร์ตระดับโลก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีแสง สี เสียงและจอ LED สุดอลังการ ที่จะช่วยเปลี่ยนทุกจินตนาการของคุณให้กลายเป็นจริง สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้จัดงานได้อย่างครบครัน ซึ่งการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ทำให้งานของคุณราบรื่น แต่ยังเป็นการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้ร่วมงานอีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ด้วยนะ
6. วางแผนโปรโมตและประชาสัมพันธ์
จัดงานดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีคนรู้ก็เท่ากับศูนย์! การโปรโมตต้องทำอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกช่องทาง ตั้งแต่การใช้โซเชียลมีเดียที่เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ LinkedIn ไปจนถึงการใช้สื่อแบบ Offline อย่างโปสเตอร์ ป้ายโฆษณาและสื่อสิ่งพิมพ์
นอกจากนี้ การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ หรือสื่อพันธมิตร จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายวงการรับรู้ได้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมวางแผนล่วงหน้า เพื่อปล่อยข้อมูลสำคัญในจังหวะที่เหมาะสม เช่น การปล่อยทีเซอร์เพื่อกระตุ้นความสนใจ เปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าหรือการส่งบรีฟข่าวสาร (Press Release) ให้กับสื่อ เพื่อสร้างกระแสและเรียกคนเข้าร่วมงานให้มากที่สุด นอกจากนี้ ควรมีการติดตามผลและปรับแผนโปรโมตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตอบโจทย์และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละช่องทาง
7. จัดการทีมและมอบหมายหน้าที่
“Teamwork makes the dream work” คือเรื่องจริงเสมอในการจัดอีเว้นท์ หลังจากที่วางแผนต่าง ๆ เสร็จแล้ว ก็อย่าลืมทีมงานที่ดูแลงานในแต่ละ Process ต่าง ๆ ทั้งนี้ ควรแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน ใครดูแลส่วนไหน หรือถ้าต้องการความเป็นมืออาชีพแบบจัดเต็ม แนะนำให้มองหาพาร์ทเนอร์หรือออแกไนเซอร์มืออาชีพเข้ามาช่วยดำเนินงาน วิธีนี้ก็จะช่วยลดภาระและทำให้การดำเนินงานราบรื่นไร้กังวล
8. เตรียมความพร้อมหน้างานและซักซ้อม
ก่อนวันงานหนึ่งวัน ควรมีการซ้อมคิวและตรวจสอบทุกระบบให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น ระบบแสง สี เสียงและจอภาพทำงานปกติไหม จุดลงทะเบียนพร้อมรับแขกหรือยัง ทีมงานทุกคนเข้าใจหน้าที่และคิวของตัวเองใช่ไหม รวมทั้งแผนรักษาความปลอดภัยและแผนสำรองพร้อมหรือเปล่า เพราะการซ้อมที่ดีจะช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นหน้างานได้มหาศาล
9. สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในวันจัดงาน
ในวันจริง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการบริหารจัดการให้ทุกอย่างไหลลื่นที่สุด ตั้งแต่การต้อนรับ การนำเสนอ ไปจนถึงการดูแลอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและจดจำความประทับใจนี้กลับไปอย่างเต็มเปี่ยมเลย
10. วัดผลและเก็บ Feedback เพื่อพัฒนาต่อ
จบงานแล้ว…ยังไม่จบ! ได้เวลากลับมาดูว่าผลลัพธ์ที่ได้ตรงกับเป้าหมาย (KPI) ที่ตั้งไว้ในข้อแรกหรือไม่ จำนวนผู้ร่วมงานเป็นไปตามเป้าไหม ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ และที่สำคัญคือการรวบรวม Feedback จากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลอันสำคัญในการพัฒนาการจัดอีเว้นท์ในครั้งต่อไปให้ปังยิ่งกว่าเดิม

มองหาสถานที่จัดอีเว้นท์ที่ตอบโจทย์? ให้ UOB LIVE เป็นคำตอบของคุณ
การจัดอีเว้นท์ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่การจัดการหลังบ้านต่าง ๆ แต่ยังรวมไปถึงการเลือกสถานที่ที่ตอบโจทย์อีกด้วย UOB LIVE ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ระดับโลกแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมเนรมิตทุกความสำเร็จของคุณ ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่า ความจุที่ยืดหยุ่น รองรับได้สูงสุดถึง 6,000 ที่นั่ง พร้อมสำหรับทุกขนาดอีเว้นท์ จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีระดับโลก กับระบบเสียง L-Acoustics K2 และจอ LED สุดอลังการ ตั้งอยู่บนโลเคชั่นที่ไม่มีใครเทียบที่ชั้น 6 ของศูนย์การค้า Emsphere เดินทางสะดวกสบายด้วย Skywalk จาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลการจัดอีเว้นท์ของคุณให้ราบรื่นในทุกขั้นตอน
ให้ UOB LIVE เป็นพื้นที่แห่งความสำเร็จ ที่พร้อมเติมเต็มทุกไอเดียและเปลี่ยนงานของคุณให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นวางแผนอีเว้นท์ในฝันของคุณวันนี้ แล้วร่วมสร้างความประทับใจที่ไม่มีวันลืมไปด้วยกัน!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การเลือกสถานที่จัดงานสำคัญอย่างไรต่อความสำเร็จของอีเว้นท์
สำคัญมาก! สถานที่เปรียบเสมือนด่านแรกที่สร้างความประทับใจ มีผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของผู้เข้าร่วม ตั้งแต่ความสะดวกในการเดินทาง บรรยากาศโดยรวม สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถึงการสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ สถานที่ที่ใช่จะช่วยยกระดับงานของคุณและสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง
ต้องเริ่มวางแผนจัดอีเว้นท์ล่วงหน้านานแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของงานเลย โดยทั่วไปแล้ว สำหรับอีเว้นท์ขนาดกลางถึงใหญ่ ควรเริ่มวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 6 – 12 เดือน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการจองสถานที่ที่ต้องการ การวางแผนโปรโมตและการเตรียมงานด้านต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
ระหว่างการจัดงานเองกับการจ้างออแกไนเซอร์ แบบไหนดีกว่ากัน
หากคุณมีทีมงานภายในที่มีประสบการณ์ อาจจัดงานเองได้เพื่อควบคุมงบประมาณ แต่การจ้างออแกไนเซอร์มืออาชีพจะช่วยลดภาระงาน มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าและมีคอนเนคชั่นกับซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ซึ่งอาจช่วยให้งานราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จะวัดผลความสำเร็จของอีเว้นท์ได้อย่างไรบ้าง?
สามารถวัดผลได้หลายมิติ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมงาน, ยอดขายที่เกิดขึ้น, จำนวนสื่อที่นำไปเผยแพร่ (Media Mentions), การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย (Social Engagement) และผลสำรวจความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงาน